โครงการลดไขมันเพื่อ Six Pack

ผมออกกำลังกายเป็นประจำมาสามปีตั้งแต่เริ่มมาเรียนต่อที่ Sydney ตอนเย็น และ เสาร์อาทิตย์มันว่างมากมาย ช่วงแรกๆ ก็ตีแบดฯ เตะบอล เพราะมันได้สังคมดี มีเพื่อนเพิ่ม ไม่งั้นจะเฉาตายเพราะความเหงา และได้รู้มาว่า ที่มหาลัยมีชมรม Kickboxing แต่ก็คอยคิดเสมอว่า มันไม่ใช่มวยไทย พวกนี้คงจะกระโดดเหยงๆ หมุนตัวเตะ ท่าสวยงามแบบนั้นครูมวยไทยด่าตาย แต่ก็อยากลอง กะว่าจะไปโชว์พาวให้พวกที่ Sydney ดูสายเลือดมวยไืทยซะหน่อย พอไปเข้าคลาสแรกดู โหย เหนื่อยแทบเป็นลม นั่นทำให้ผมได้รู้จักกับการออกกำลังกายแบบ Circuit Interval และ Conditioning (ศัพท์ใหม่บาน) วันรุ่งขึ้นก็ปวดไปทั้งตัว แขนขาล้า แต่มันสะใจจริงๆ ด้วยความไม่อยากยอมแพ้เลยกลับไปซ้ำอีก จนถึงทุกวันนี้ผมเป้นสมาชิกเก่าแก่ไปแล้ว

ชมรมนี้มีการฝึกซ้อมสามระดับ ผู้เริ่้มต้น (Beginner's) ระดับกลาง (Intermediate) ระดับสูง (Advanced) คนสอนก็ไปเรียนมวยไทยมาจากที่ไทยนั่นแหล่ะ น่าภูมิใจมะ ผมเริ่มต้นจากชั้นสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่มีการเตะ มีอย่างมากก็ถืบตรง กับ เข่า เพราะคนเรียนเยอะมากพื้นที่ไม่พอจะเหวี่ยงแขนขา การซ้อม ซ้อมเป็นคู่ ไม่มีการปะทะใส่ผู้ซ้อม มีแต่ใส่เป้าล่อ (Focus mitts) เท่านั้น ผมเจ็บตัวจากเรื่องเดียวคือ ข้อมือ ที่บางทีอัดไปเต็มแรงแต่ผิดท่า ก็ต้องเจ็บแน่ๆ แต่รวมๆแล้ว ผมเจ็บตัวน้อยกว่าเตะบอลอีก

ตอนนี้ผมอยู่ Advanced แล้ว แต่ผมไม่คิดว่าผมไปชกกับใครจริงจังได้ัอยู่ดี ผมได้ความอึด (Conditioning) เพิ่มขึ้นมากมาย กลับไปตีแบด เตะบอล กลายเป็นใช้แรงแค่สิวๆไปเลย เพราะเรี่ยวแรงมาต่อเนื่อง ร่างกายดูจะเพรียวขึ้น คางหายหนา พุงราบลงไปเยอะอย่างเห็นได้ชัด ลุกนั่งไม่รู้สึกอึดอัด ทานข้าวได้น้อยลง!!! (ซะังั้น) สดชื่น และกระฉับกระเฉงตลอด

ผ่านมาสามปี แต่ก็ยังไม่มีกล้ามท้องจริงจังสักที จนมาถึงปีนี้ ผมตั้งใจจะฟิตเอากล้ามท้องให้ออก เลยศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายแหล่ง และพวกที่มีกล้ามท้องจริงๆ ได้ความว่า เหตุที่ไม่มีกล้ามท้อง แม้จะคลำแล้วรู้สึกว่ามีก็ตาม เพราะไขมันที่หน้าท้องมันบังอยู่ ต่อให้ Sit-up ให้หลังหักก็ไม่เห็น ต้องลดไขมันเท่านั้น แต่จะทำได้ยังไงก็ต้องค้นหากันต่อ

ผมเคยวัดด้วยเครื่องพบว่า สัดส่วนไขมันในร่างกาย (%Body Fat) เคยดีสุดอยู่ที่ 14% ตอนนั้นผมหนัก 82 kg ก็ประมาณว่า ทั้งตัวผมมีไขมัน 11.48 kg อูย จินตนาการว่ามีก้อนไขมันวางอยู่ข้างหน้าเหลืองอ๋อย 11 โลกว่า ก็ขนลุกแล้ว ช่วงหลัง ผมชะล่าใจว่าเพรียว เลยกินตามใจ ตอนนี้วัดใหม่ได้ 18% โอ้วแม่เจ้า

คนที่มี abs มองเห็นได้นั่นมี %Body Fat ต่ำกว่า 12% ก็เลยเป็นที่มาว่าผมจะพยายามลดจาก 18 ให้เหลือ 12 ให้ได้ภายใน 12 สัปดาห์ หะหะหะหะ ยากนะ แต่ลองดู

ผมหาข้อมูลบน BodyBuilders.com ดูแล้วได้แรงบันดาลใจดี ต้องสร้างกล้ามเนื้อแต่ไม่จำเป็นต้องอยู๋ใน Gym ทั้งวัน ต้องกินอย่างถูกต้อง และ พักผ่อนให้เพียงพอ

กิน
ตอนนี้ผมเคร่งเรื่องการกินมากขึ้น จนทำให้กินแต่ละที คิดมากตลอด ตอนนี้เลิกน้ำอัดลมได้แบบขาด ถ้าอยากรู้ว่าน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องมันเป็นยังไง ลองเอาน้ำตาลครึ่งแก้ว ใส่น้ำให้เต็มแก้ว ชงให้ละลายแล้วดื่มดู น้ำตาล 1 ช้อนช้า ก็ต้องออกกำลังกายกันตับแลบกว่าจะเผาผลาญได้หมด ได้มาครึ่งแก้วนี่ร่างกายใช้พลังงานไม่หมด ก็เก็บในรูปไขมัน เพิ่มไขมันเข้าไปอีก BodyBuilders ไม่งด Carbohydrate (Carb) ยังไงแล้ว Carb ก็เป็นแหล่งพลังงานหลัก ไปงดมันร่างกายจะเผากล้ามเนื้อมาใช้แทน เพราะมันสลายได้เร็วกว่าไขมัน

อาหารเสริม
อาหารเสริมที่ผมใช้ มีแต่ Whey protein เพราะจะให้กินไก่ กินเนื้อให้ได้ปริมาณ Protein ที่เพียงพอนั่น คงต้องกินกันเป็นกิโล จริงๆก็ทำได้นะ แต่ผมอยากเร่งกระบวนการ อาหารเสริมมีเยอะมว้าก แต่ผมไม่มีเงินจะซื้อมาใช้หน่ะสิ เอาแค่เท่าที่ทำได้นี่แหล่ะ

ออกกำลังกาย
ออกกำลังกาย 2 วัน - พัก 1 วัน ออกกำลังกายแต่ละที ก็แล้วแต่ว่าอยากจะเน้นอะไร แต่ผมไม่ทิ้งซ้อมมวยของผม มันสนุกสะใจ แต่เพิ่มการยกน้ำหนักเข้ามา เมื่อก่อนคิดว่าพวกยกน้ำหนักมันสนุกอะไร แต่ยกของหนักๆแล้วร้องย้ากๆ ตอนนี้ได้ลองเอง โอย สะใจมาก ผมได้ความเป็นคนลุยสุดๆจากการซ้อมมวย ไม่ยอมแพ้กับการออกกำลังกาย วันไหนเข้า Gym แล้ว ไม่มีการออกมาแล้วบอกว่า เห้อ ง่าย สบาย แต่สำหรับผม มันยากทุกครั้งที่ เหนื่อย หนัก แต่นั่นแหล่ะ มันส์ และเห็นผล ผมไม่เน้นนาน แต่เน็นเร็วแรง ให้จบภายใน 1 ชั่วโมง ไม่คุยกับใคร ไม่โอ้เอ้

พักผ่อน
แจ่มเลย ชอบอ่ะ นอนให้พอ ช่วงหลังนี้ ตื่นมาแล้วรู้สึกเพรียวขึ้นด้วย ฟังไม่น่าเชื่อหล่ะสิ ถ้าร่างกายสามารถเผาผลาญหลังการออกกำลังกาย (After burn) ได้ ก็ได้กำไรเพราะไขมันจะถูกสลายไปทีละน้อยแม้จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ออกกำลังกายหนักๆ

ทำไมต้องยกน้ำหนัก?
- เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญไขมัน คนที่กล้ามเยอะกว่านั่งเฉยๆ ใช้พลังงานเยอะกว่าคนไม่มีกล้าม เพราะกล้ามเนื้อเวลามันยืดและหด ต้องมีพลังงานเข้าไปใช้ตลอด
- เพื่อให้ดูดีขึ้น อ่ะ แหง

No Magic!!
อย่างนึงอยากฝากไว้คือ ของที่โฆษณาสรรพคุณช่วยลดความอ้วน ลดไขมัน ด้วยการกิน การเอาพันไว้รอบตัว การขึ้นไปบนเครื่องแล้วโยกๆ อะไรก็ตาม พวกนั้นไม่ได้ผลหรอก ถ้าไม่ออกกำลังกาย อาหารเสริมบางตัวก็เป็นอย่างที่พวก BodyBuilders ใช้กัน แต่พวกนั้นออกกำลังกายครับ เครื่องออกกำลังกายเฉพาะจุดเน้นเฉพาะพุง ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะคนจะผอม มันผอมจากหน้า ใต้แขน หลัง ต้นขา แล้วพุงเป็นอย่างท้ายสุด เคยเห็นคนหน้าอ้วน แขนย้วยแล้วมีกล้ามท้องไหม? ใครที่คิดจะผอมแบบง่ายๆหน่ะ ไม่มีหรอก

ผมไม่คิดจะโต้เถียงกับ Sales ทั้งหลายที่ได้อ่านบทความนี้ หากคุณจะ comment ตอบโต้ว่าไม่จริงอะไรก็ตาม ผมลบหมด ไม่รับฟัง เชิญที่อื่น การอ้างฝรั่ง หรือ มหาลัยต่างประเทศว่ามีผลการวิจัยอะไรนั่น ผมอยู่ที่นี่นานพอจะรู้ว่า ฝรั่งขี้นกมีมากมาย มหาลัยมั่วๆก็มีไม่ใช่น้อย ผลงานวิจัยแบบพิมพ์ไปอย่างนั้นก็เพียบ คนไทยโดนหลอกง่าย ผมเจ็บใจแทนครับ

Zero Excuses
ถ้าผมกลับไทย ผมอยากมีก๊วนออกกำลังกายแบบที่มีแนวคิดเดียวกัน ผมอยากช่วยฝึกซ้อมให้คนที่อยากพัฒนารูปร่างด้วย ได้ชื่อเก๋ๆมาว่า Zero Excuses = ไร้ข้ออ้างใดๆ! Shut up and Train! กว้ากส์ ผมยังคงจะซ้อมมวยต่อไป ที่ไทยก็เป็นสวรรค์มวยไทยเลย เหลือแค่จะซ้อมให้คนอื่นโดยที่ไม่ต้องเข้าค่าย ผมจะเอาอุปกรณ์ Focus mitts, Thai pads ไปล่อเป้าชกกันในสวน ก็น่าสนุกดี

แล้วพบกันใหม่ครับ

Comments

Note said…
อยากจะไม่มี excuse เหมือนกันนะพี่หนึ่งแต่ตอนนี้ยังทำยากอยู่ แหะๆ ด้วยกิเลศส่อนตัวทำให้มีข้ออ้างได้ต่างๆนานา

ตอนไปออกกำลังกายที่ gym ก็มี personal trainer อยู่พักนึงค่ะ Circuit เป็นอะไรที่ชอบสุดแระ มันสะใจเหนื่อยได้ใจจริงๆ นึกถึงแล้วก็อยากออกกำลังกายขึ้นมาซะงั้น