จดจำ ด้วยการเชื่อมโยง

สมองมนุษย์ มีศักยภาพมากมาย แต่เมื่อเราเติบโต สภาพแวดลอม และ สังคมรอบตัวเรา จำกัดวิธีการคิด และ ความคิดสร้างสรรค์เราลงไป ศักยภาพสมองก็ถูกบั่นทอนลงไปด้วย เด็กทารกเด็กน้อยๆ เกิดมาพร้อมกับสมองที่มีศักยภาพสูงส่ง มีเซลล์ประสาทเต็มไปหมด แต่เราเอง ไปกำหนดเด็กว่า ห้ามคิดแบบนี้ ห้ามทำแบบนี้ ใจเด็กก็จะข่มการคิดนั้นๆไว้ และเมื่อไม่ใช้มันอีก เซลล์สมองส่วนนั้นก็ฝ่อไป

ร่างกายที่ฝึกกล้ามเนื้อก็จะแข็งแรง ยกน้ำหนักแล้วกล้ามโต เพราะเมื่อร่างกายรู้ว่ามันต้องโดนใช้งานแบบนี้อีก มันก็จะสร้างกล้ามขึ้นมาเพื่อพร้อมรับศึก แต่เมื่อหยุดฝึกก็จะเหี่ยวลง ดู พ่อคนเหล็ก Arnold Schwarzenegger วันนี้หย่อนยานลงไปมาก สมองก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ฝึกสมองอยู่ตลอด ความสามารถในการคิดก็จะถดถอยลงไปด้วย

แต่มักมีคนค้านว่า .... คิดมาก ปวดหัว - ก็แหง เพราะสมองทำงานเยอะ เลือดวิ่งไปเลี้ยงเยอะ ประมวลผลเยอะ ก็ต้องมีร้อนกันบ้าง ยกน้ำหนักมากๆก็ยังต้องพักเป็นระยะ แต่การคิด ถ้าคิดเป็น ก็ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องต่างๆผ่านแง่มุมด้านลบ ดั่งการแก้ปัญหา มีได้หลายวิธี แต่บางคนเลือกวิธีที่ต้องสู้ เผชิญหน้า ทะเลาะเบาะแวง เหล่านี้ทำให้เครียด และ เสียสุขภาพ ในขณะที่อีกคน คิดจะไกล่เกลี่ย หาทาง win-win ก็แก้ปัญหาได้เหมือนกัน ดังนั้น การคิดมาก ถ้าคิดเป็น ก็เห็นธรรม

ผ่านมาถึงย่อหน้านี้ ท่านคงเห็นว่า ผมพยายามเชื่อมโยงเรื่องราว เพื่ออธิบายเรื่องการใช้สมอง ด้วยการเปรียบเทียบกับสิ่งและเหตุการณ์ต่างๆ มันทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้น *รับ*ข้อมูลนั้นได้เร็วขึ้น เพราะช่องทางที่เราคุ้นเคย

เทคนิคการจดจำวิธีหนึ่งที่ได้ผลคือ การเปรียบกับสิ่งที่เรารู้จัก การเชื่อมโยงเข้ามากับสิ่งทีเราคุ้นเคย จะทำให้เราสามารถจดจำได้ง่ายขึ้น ถ้าจะจดจำได้แม่นยิ่งขึ้น ต้องฝึกทบทวนบ่อยๆ เพื่อให้เส้นทางการเข้าหาข้อมูลในสมองชัดขึ้น ก็จะเร็วขึ้นเอง

Comments